รหัส QR หรือที่เรียกอีกอย่างว่าบาร์โค้ดสองมิติ ถือเป็นเทคโนโลยีบาร์โค้ดรูปแบบที่ก้าวหน้ากว่าเมื่อเทียบกับบาร์โค้ดแบบมิติเดียว ในขณะที่บาร์โค้ดแบบมิติเดียวสามารถเข้ารหัสข้อมูลได้แบบเชิงเส้นเท่านั้น โดยทั่วไปจะเป็นแบบแนวนอน แต่รหัส QR มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลได้ทั้งแบบแนวนอนและแนวตั้ง บาร์โค้ดแบบมิติเดียวจำกัดอยู่แค่เฉพาะอักขระตัวเลขและตัวอักษร ในขณะที่รหัส QR สามารถรองรับข้อมูลได้หลากหลายกว่า เช่น อักขระจีน ตัวเลข และแม้แต่รูปภาพ รหัส QR มีความจุในการจัดเก็บที่มากขึ้น ทนทานมากขึ้น เชื่อถือได้มากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และมีความสามารถในการป้องกันการปลอมแปลง จึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ในหลากหลายสาขา
รหัส QR ทำงานบนหลักการจัดเรียงรูปแบบเรขาคณิตเฉพาะตามอัลกอริทึมที่กำหนดไว้บนระนาบสองมิติเพื่อบันทึกข้อมูลเชิงสัญลักษณ์ เมื่อผู้ใช้สแกนรหัส QR ด้วยอุปกรณ์อ่าน อุปกรณ์จะจดจำรูปแบบเหล่านี้และแปลงเป็นข้อมูลไบนารี จากนั้นถอดรหัสเพื่อแยกข้อมูลที่ฝังไว้
ด้วยความสามารถในการรับข้อมูลจำนวนมาก รหัส QR จึงสามารถรวมข้อมูลที่เคยถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลแบ็กเอนด์และเข้าถึงได้ผ่านบาร์โค้ดมิติเดียว ซึ่งช่วยให้สามารถดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้โดยตรงโดยเพียงแค่สแกนรหัส นอกจากนี้ รหัส QR ยังรวมเทคโนโลยีแก้ไขข้อผิดพลาดและป้องกันการปลอมแปลง ซึ่งทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยมากขึ้น
รูปแบบที่พบเห็นบ่อยที่สุดของรหัส QR คือรหัสตอบสนองด่วน ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่แสดงถึงความสามารถในการถอดรหัสได้อย่างรวดเร็ว บาร์โค้ดสองมิติประเภทนี้ได้รับการพัฒนาโดยมาซาฮิโระ ฮาระ วิศวกรที่ Denso Wave ในปี 1994 โดยเดิมตั้งใจให้ใช้ในการทำเครื่องหมายส่วนประกอบต่างๆ ในระบบโลจิสติกส์เพื่อให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ความสามารถในการถอดรหัสที่รวดเร็วของรหัส QR นำไปสู่การนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย
ในปัจจุบัน QR Code ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับการจัดเก็บและส่งข้อมูล และถือเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์